โรงเรียนบ้านขุนหาญ บูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ การศึกษาแบบองค์รวม (Holistic Education)
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้มาพบกับบทความจากโรงเรียนบ้านขุนหาญ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 บ้านขุนหาญ ตำบลขุนหาญ อำเภอขุนหาญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 4 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา โดยใช้นวัตกรรมการเรียนรู้การศึกษาแบบองค์รวม (Holistic Education)
แนวคิดหลักในการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ (School Concept)
จากการสัมภาษณ์และพูดคุยกับ นางวัชรา รัตโน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนหาญ ท่านให้ข้อมูลว่า โรงเรียนบ้านขุนหาญมีการบริหารจัดการการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ จัดการศึกษาที่สอดคล้องกับฐานทุนบริบทและชุมชน มุ่งให้เกิดความ เสมอภาค และไม่ยึดติดกับวิธีการแบบเดิม ๆ เพราะการศึกษาที่ดีอาจจะไม่มีวิธีการใดที่ถูกต้องเสมอหรือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ตลอดจนมุ่งเน้นให้ผู้เรียน“รู้คิด จิตใจดี มีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ มีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ” สอดคล้องกับเป้าหมายคุณลักษณะคนดีศรีสะเกษ และเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เติบโตอย่างสมดุลของประเทศไทยคือ เป็นบุคคลผู้เรียนรู้ (Learner Person) เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Co-Creator) และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen) ตามเป้าหมายคุณลักษณะของคนชาติไทย
โรงเรียนมุ่งเน้นพัฒนาทุกพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ที่เรียนรู้ได้หลากหลายในทุกมิติบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอนให้เชื่อมโยงกับพื้นที่เรียนรู้ในโรงเรียน เช่น ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ห้องสมุดมีชีวิต ห้องปฏิบัติการ คอมพิวเตอร์ ห้องเรียนคุณภาพ สนามเด็กเล่นตามรอยยุคลบาทรวมทั้งพื้นที่เรียนรู้ใหม่นอกห้องเรียนจากแหล่งชุมชน มีภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดนตรี/เกษตรอินทรีย์ มีแหล่งเรียนรู้ในชุมชุน(หม่อนไหม, กลุ่มแม่บ้านทอผ้า, สวนทุเรียน, สวนยางพารา) และมีวัดเป็นศูนย์พัฒนาคุณธรรมระดับจังหวัด/เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ลงมือปฏิบัติ รู้คุณค่าอย่างแท้จริงสู่เป้าหมายนักเรียนโรงเรียนบ้านขุนหาญ “นวัตกรบ้านขุนหาญ ผ้าไหมสู่สากล” ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา มีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นพลเมืองที่ดีผ่านการเรียนรู้แบบองค์รวม (Holistic Learning) ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ทัศนคติ วิธีคิด พฤติกรรม ขยายศักยภาพและสร้างดุลยภาพแห่งมนุษย์ที่สมบูรณ์ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบใฝ่รู้ (Active learning) ด้วยวิธีลงมือปฏิบัติและสะท้อนความหมาย ความรู้ ความเข้าใจอย่างเชื่อมโยงถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง สังคมและโลก และที่สำคัญสามารถประยุกต์ใช้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ ผ่านการกระทำทั้ง กาย วาจา ใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
กระบวนการทำงาน
เพื่อให้การพัฒนาหลักสูตรเป็นไปตามประสิทธิภาพต่อผู้เรียนได้จริง โรงเรียนจึงมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาทั้งระบบ (Whole School Transform) โดยเฉพาะบุคลากรที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลที่อิงสมรรถนะของผู้เรียน ดังต่อไปนี้
- พัฒนาผู้บริหารและคณะครูให้มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบของหลักสูตรตั้งแต่ปรัชญา
การศึกษา (School Philosophy) วิสัยทัศน์ของโรงเรียน (School Vision) แนวคิดหลัก (School Concept) และผลลัพธ์ที่พึ่งประสงค์ของการเรียนรู้ (Desired Outcomes of Leaning : DOL) สมรรถนะการเรียนรู้ (Competency)
- โครงสร้างการจัดกลุ่มศาสตร์วิชา (Leaning Areas) โครงสร้างเวลาเรียน แนวคิดหลักของกลุ่มวิชา การออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแนวทางการวัดและประเมินผล
- การพัฒนาครูผู้สอน การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ และเป็นผู้สังเกตผู้เรียนมีสายตาเชิงประจักษ์เห็นสภาวะการเรียนรู้ของผู้เรียน (Visible Leaning)
- การพัฒนาการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือทำให้นักเรียนเกิดสมรรถนะ ด้วยความสัมพันธ์ OLE ดังนี้