นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา รองประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา คนที่สอง และประธานอนุกรรมการพิจารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการศึกษา กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการลงพื้นที่ศึกษาดูงานการขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ณ โรงเรียนบ้านหนองม่วง อำเภอวังจันทร์ และโรงเรียนบ้านสมานมิตร อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ดังนี้
คณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการศึกษา ทำหน้าที่ในการติดตามการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. ที่ได้ประกาศใช้ไปแล้ว ทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 โดยจะติดตามดูการนำไปสู่การปฏิบัติว่ามีข้อขัดข้องหรือไม่ อย่างไร และจะเร่งรัดให้มีการดำเนินการตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว และหากพบประเด็นจากการติดตาม เร่งรัด จะเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี ต่อไป
สำหรับ พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งศึกษาธิการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ดำเนินการตาม พ.ร.บ. และทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระใน พ.ร.บ. อย่างแท้จริงว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้เปิดโอกาสให้สามารถปรับปรุงแก้ไขการบริหารจัดการและการจัดการศึกษาในส่วนใดได้บ้าง หากไม่ดำเนินการถือว่าไม่ทำตามกฎหมาย ซึ่ง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ได้เปิดโอกาสให้ครู ผู้บริหารโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาให้ได้ ร่วมพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนในพื้นที่ ร่วมกันสร้างเด็กไทยในอนาคต จุดเริ่มต้นคือ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงตนเอง
Written by พิทักษ์ โสตถยาคม
Photo by ทิฆัมพร แรงเขตรการ และพิทักษ์ โสตถยาคม
Artwork by เก ประเสริฐสังข์ ศศิธร สวัสดี และภัชธีญา ปัญญารัมย์