ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ เปิดจวนผู้ว่าฯ ต้อนรับ ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (สบน) จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมด้วย นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล นายพงศ์ทัศ วนิชานันท์ นักวิจัยจาก TDRI และตัวแทนแกนนำหลักของคณะทำงานขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมจังหวัด นำโดยนางวัชรกาญจน์ คงพูล ศึกษาธิการจังหวัด นายเสนีย์ เรืองฤทธิ์ราวี ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 และนายอภิศักดิ์ แซ่จึง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เข้าพบเพื่อสรุปผลการดำเนินงานขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาว่ามีความก้าวหน้าตามเป้าหมาย และมีแนวโน้มพัฒนาขยายผลได้ใน 2 มิติหลักที่สำคัญ คือ
1. ด้านการสร้างการมีส่วนร่วมและกลไกขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรม : สามารถจัดตั้ง “คณะอนุกรรมการดำเนินงาน 4 ด้าน” ที่เกิดจากการเชื่อมโยง “คนในพื้นที่” จากทุกภาคส่วน ร่วมคิด วิเคราะห์ และจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ซึ่งแนวคิดนี้สามารถสร้างการรับรู้และ “การเป็นเจ้าของร่วม” ในการจัดการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน มุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่มีคุณลักษณะ “รู้คิด จิตใจดี มีทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต” เพื่อเป็นพลเมืองศรีสะเกษที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
คณะอนุกรรมการดำเนินงาน 4 ด้าน ประกอบด้วย
1. ด้านยุทธศาสตร์และแผน
2. ด้านส่งเสริมการรับรู้และมีส่วนร่วม
3. ด้านเสริมสร้างความเข้มแข็งการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้
4. ด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา
2. ด้านการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้โรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา : มูลนิธิสยามกัมมาจลในฐานะที่ปรึกษาและพี่เลี้ยง ให้การสนับสนุนเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ (Mentors) ในการพัฒนา “ครู” ในการจัดการเรียนรู้การสอนแบบ Active Learning ต่อยอดขยายผลจากฐานทุนเดิมของโรงเรียนในการปรับวิธีเรียน-เปลี่ยนวิธีสอนผ่านการใช้ 7 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ใน 50 โรงเรียนนำร่อง
จากการดำเนินงานพัฒนากลุ่มโรงเรียนนำร่องตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้บริหารและครูมีความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคม มีความตื่นตัวและเปิดใจใช้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการออกแบบและจัดทำแผนการเรียนการสอนที่เป็น Active Learning และเริ่มมีตัวอย่างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและภาคีเครือข่ายทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ประกอบการมากขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ ได้มีการออกแบบกรอบการติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาโรงเรียนนำร่องในองค์ประกอบหลัก 7 ด้าน ผ่านการสังเกตพฤติกรรมบ่งชี้ (Key Behavior) ที่สะท้อนผลต่อการบริหารจัดการสถานศึกษา และการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใช้จุดจ้องมองการติดตามความก้าวหน้านี้เป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดและขยายผลในปีถัดไป
และอีกหนึ่งความก้าวหน้าที่สำคัญ คือ การค้นพบ Core Team สำคัญในโรงเรียนที่จะเป็นแกนนำหลักในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่อิงฐานสมรรถนะสู่ผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีแนวโน้มขยายผลสู่การเป็น “โรงเรียนแกนนำขยายผล” (Node) ที่จะเป็นพี่เลี้ยง ดูแล-ให้คำปรึกษาโรงเรียนนำร่องอื่น ๆ ต่อไปอีกด้วย
โดยในปี 2563 คณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาศรีสะเกษ ได้วางแผนและจัดทำยุทธศาสตร์การจัดการศึกษา มุ่งพัฒนาและจัดทำ (ร่าง) กรอบหลักสูตรศรีสะเกษศึกษาอิงฐานสมรรถนะ (Competency Based Curriculum) เพื่อเป็นแนวทางให้โรงเรียนต่าง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการออกแบบและจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของตนเองต่อไป
ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวชื่นชมทุกภาคส่วนที่ได้ผสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาอย่างทุ่มเทและเสียสละ มีการวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาทั้งระบบ และให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของ “คนในพื้นที่” ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพ “เด็กและเยาวชนพลเมืองศรีสะเกษ” ที่สอดคล้องกับฐานทุนบริบทชุมชนและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง พร้อมชู “พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา” เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์จังหวัดอีกด้วย
Written by นางสาวนภัทร ฐิติดำเกิง
Photo by นางรัตนา กิติกร นางสาวนภัทร ฐิติดำเกิง และนางสาววลีรัตน์ มิ่งศูนย์